21 สิงหาคม 2567 ติดตามและประเมินผลผู้พิการที่เข้าอบรมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปี2567
วันที่ 21 สิงหาคม 2567
วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการออกนิเทศ ลงพื้นที่เยี่ยมชมกิจการของผู้ที่ผ่านการอบรม ตามโครงการการฝึกงานการสร้างอาชีพเพื่อผู้พิการ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2567 ซึ่งลงพื้นที่ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
บ้านหลังแรก บ้านโกวิท อยู่บ้านหนองเขียว ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว โกวิทใช้บริเวณข้างบ้านต่อเติมทำโรงเพาะเห็ดค่อนข้างที่จะได้มาตรฐาน เพราะคนในครอบครัวต่างช่วยกันสร้างโรงเพาะเห็ดนี้ขึ้นมา ทำให้เห็ดที่ออกมาสวยงาม สามารถนำไปขายได้เงินหลายบาท พ่อและแม่ของโกวิทภูมิใจในตัวลูกชายมากที่ได้ไปอบรมแล้วกลับมาทำอย่างจริงจัง สร้างรายได้ให้ครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
บ้านหลังที่สอง บ้านแม่ผง ยุพิน แม่ผงได้นำเอาเห็ดนางฟ้าภูฐานไปประกอบอาชีพ โดยใช้ห้องเก่าหลังบ้านทำเป็นโรงเพาะเห็ด เห็ดของแม่ผง ก็ออกมากมายเช่นกัน จนเก็บไปขายได้หลายรุ่น การวางเห็ดสวยงามเป็นระเบียบดี ความชื่น และอุณหภูมิค่อนข้างดี ครูต้อมจึงแนะนำเรื่องการแคะหน้าก้อนเห็ดเพิ่มเติมให้แม่ผง เพราะเห็นว่าบางก้อนยังแคะได้ไม่ถูกต้อง และลองให้แม่ผงแคะให้ดู ก็ทำออกมาได้ดีและเข้าใจมากขึ้น
บ้านหลังที่สาม บ้านพ่อแอ สุพัฒน์ พ่อแอ นำเห็ดไปประกอบอาชีพดั่งเช่นคนอื่นๆ ทำโรงเห็ดเองกับเพื่อนบ้าน จนออกมาได้มาตรฐาน ยกพื้นระดับเข่า จัดเรียงก้อนเห็ดได้อย่างสวยงาม ระยะความห่างด้านหลังถูกต้อง องศาถูกต้อง ให้ผลผลิตออกมาได้อย่างดี นำไปขายได้หลายรุ่น ทุกครั้งที่นำเห็ดออกไปขายพ่อแอจะทำการจดบันทึกรายละเอียดเอาไว้ทั้งหมด ว่าสร้างโรงเรือนวันไหน เก็บขายครั้งแรกได้กี่ขีด ขายได้เท่าไหร่ เป็นต้น พ่อแอตั้งใจจะขยายกิจการออกไปอีกให้มากกว่านี้ ดูทุ่มเทและตั้งใจมาก รางวัลแห่งความสำเร็จเป็นของคนที่ตั้งใจทำเท่านั้น
บ้านหลังที่สี่ บ้านพี่โรจน์ ไพโรจน์ และพี่พลอย ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา โดยเลือกผักไฮโดรโปนิกส์ไปประกอบอาชีพ โดยสร้างโต๊ะปลูกผักไว้หลังบ้าน มั่นคงแข็งแรง มีการนำพลาสติกใสมาคลุมเป็นหลังคาเพื่อกรองแสงแดดไม่ให้แดดส่องลงผักมากเกินไป
บ้านหลังที่ห้า บ้านพ่อไตร อยู่บ้านปางมะเยา ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว พ่อไตรเลือกเห็ดนางฟ้าภูฐานไปประกอบอาชีพ โดยใช้เล้าไก่เก่า อยู่บริเวณพื้นที่หลังบ้านทำเป็นโรงเพาะเห็ด ซึ่งผลผลิตออกมาได้ดีมาก ความชื้นดี อากาศกำลังพอดีไม่ร้อน เพราะอยู่ติดภูเขา พ่อไตรขายเห็ดได้หลายบาทแล้วเช่นกัน แต่ละรอบที่ออกมาก็ไม่พอขาย ในอนาคตจะขยายพื้นที่อีกแน่นอน
จากการที่ท่านประธานมูลนิธิ คณะครูผู้สอนได้ลงเยี่ยมชมกิจการของคนพิการในครั้งนี้ พบว่าแต่ละคนมีความตั้งใจในอาชีพของตน มีความสุขที่ได้เห็นผลผลิตที่ออกมาตามดั่งที่ใจต้องการ มีรายได้พอจุนเจือครอบครัว และครอบครัวก็มีความสุขไปด้วย
“ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อลงมือทำ”
เราขอเชิญชวนผู้พิการทุกคนที่เชื่อว่าตนเองมีศักยภาพ เชื่อว่าตนเองทำได้ มาฝึกอาชีพกับศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ได้ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่
ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอนครชัยศรี
ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอแม่ริม
ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว
“เพราะเราเชื่อว่าคนพิการมีคุณค่าและศักยภาพ”